พลอยทับทิม (Ruby)

พลอยทับทิม (Ruby)

พลอยทับทิม (Ruby)


วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับพลอยที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพลอยที่แพงที่สุดในโลกกันครับ ซึ่งเจ้าพลอยที่ว่านั้นก็คือ “ทับทิม” หรือภาษาค้าพลอยเรามักเรียกติดปากกันว่า “พลอยแดง” ทับทิมมีเฉดสีตั้งแต่ออกแดงอมชมพูไปจนถึงแดงสด ซึ่งยิ่งสีสวยสีเปิดไฟดีก็จะยิ่งราคาสูง ยิ่งถ้าไม่ผ่านการเผาปรับปรุงคุณภาพ หรือที่เราเรียกกันว่า “พลอยสด” หรือ “พลอยดิบ” ก็จะยิ่งราคาสูงขึ้นไปอีก สูงกว่าเพชรขาวธรรมชาติด้วยเพราะหาทับทิมสดสวยๆสักเม็ดนั้นนับได้ว่าหายากสุดๆ เราไปทำความรู้จักพลอยชนิดนี้กันดีกว่าครับ

Untitled design (28)

ทับทิมคืออะไร

ทับทิมจัดเป็นพลอยเนื้อแข็งในตระกูลคอรันดัม (Corundum) หรือที่ต่างชาติเรียกว่า Precious Stone ซึ่งพลอยเนื้ออ่อนชนิดอื่นๆจัดเป็น Semi-precious stone พลอยทับทิมนั้นได้สีแดงมาจากแร่โครเมียมซึ่งในพลอยทับทิมจากแหล่งที่มีโครเมียมสูงๆเช่นจากพม่าบ่อโมก๊กเวลาฉายแสง U.V. จะเรืองแสงสีแดงสดออกมา 


ทับทิมมาจากไหน

    แหล่งทับทิมที่สำคัญที่มีราคาสูงในตลาดโลกหลักๆมาจากพม่า และ โมซัมบิก โดยโมซัมบิกนั้นถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมากในตลาดอัญมณีโดยถือว่าเป็นแหล่งทับทิมที่มีคุณภาพและมีความต้องการในตลาดอยู่สม่ำเสมอ ส่วนของบ้านเราก็มีการขุดค้นพบทับทิมเช่นกันที่เราเรียกกันว่า “ทับทิมสยาม” หรือ            “แดงสยาม” หรือ “แดงไทย” เช่นที่อ.บ่อไร่ เป็นต้นโดยทับทิมสยามส่วนมากที่พบจะมีสีติดอมม่วงเล็กน้อยถึงมากจึงนิยมนำมาเผาไล่เชื้อสีม่วงทำให้สีแดงมีความสว่างขึ้น ส่วนแหล่งอื่นๆที่มีทับทิมออกสู่ตลาดก็มี ศรีลังกา มาดากัสการ์ อินเดีย อัฟกานิสถาน แทนซาเนีย เป็นต้น


การปรับปรุงคุณภาพในพลอยทับทิม

    ทับทิมในตลาดนั้นมีการปรับปรุงคุณภาพหลายรูปแบบซึ่งมีผลกับราคาของทับทิมเป็นอย่างมากโดยเราจะมาไล่เรียงลำดับกันจากแพงไปถูก*


1.พลอยดิบ, พลอยสด (Unheated) 

    คือพลอยที่ไม่ถูกการปรับปรุงคุณภาพใดๆเลย พบก้อนแล้วก็นำมาโกน แต่ง จี้ ไม่เผาไม่อะไรทั้งสิ้นโดยพลอยสดที่พบได้หลักๆมี2แบบ 1.พลอยสดเพราะคุณภาพสูง พลอยประเภทนี้มีแค่ประมาณ1% ของพลอยที่ขายกันในตลาดโดยเป็นพลอยที่สีสวยเนื้อสะอาดอยู่แล้วจึงไม่ต้องปรับปรุงคุณภาพ โดยพลอยประเภทนี้อาจมีราคาถึงกะรัตละแสน กะหลัตละล้าน หรือหลายๆล้านขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นเช่น สี การเจียรไน และขนาดของพลอย 2.พลอยสดเพราะคุณภาพต่ำไม่คุ้มค่าแรงทำหรือเผา พลอยพวดนี้ถิอเป็นพลอยเกรดล่างแต่ปัจจุบันมีการนำมาขายในราคาแพงหลอกลวงผู้บริโภคโดยใช้คำว่าพลอยดิบมาโฆษณา ดั้งนั้นการพิจารณาซื้อพลอยสักเม็ดอย่าดูแต่ว่าดิบจนละเลยเรื่องอื่นเพราะอาจไปเจอดิบแบบที่2ที่มันดิบเพราะไม่คุ้มค่าแรงเอาไปทำ


2.เผาเก่า

    คำว่าเผาเก่าของทับทิมขอแยกเป็น2วิธีหลักๆเนื่องจากในตลาดการค้าใช้คำเดียวกันโดยแยกเป็น 1.เผาโดยใช้ความร้อนอย่างเดียว คือการเผาโดยไม่ใช้น้ำยาหรือสารเคมีใดๆในการเผา โดยจะใช้ส่วนมากกับพลอยทับทิมที่เนื้อสะอาดมากๆหรือที่เรียกกันว่า “เนื้อร้อย” หรือคือตาเปล่าสะอาด 100% 2.เผาเก่าแบบใช้น้ำยาประสาน เช่นบอแรกซ์ โดยการเผาแบบนี้จะใช้น้ำยาประสานเนื้อพลอยอัดเข้าไปในพลอยเนื่องจากพลอยที่นำมาเผามีรอยแตกหรือโพรงอากาศมากโดยวิธีเผาแบบนี้เวลาออกใบรับรองจะมีการแบ่งเกรด โดยบ้านเราจะรู้จัก2แบบใหญ่ๆคือ 1 H(a) H(b) H(c) โดย H(a)คือมีน้ำยาในเนื้อพลอยน้อยที่สุด และH(c)คือมีน้ำอยู่เยอะมากส่วนมากพลอยพวกนี้คือพลอยที่มีรอยแตกเยอะๆหรือที่เราเรียกกันว่า “ลายไทย” และการจัดอันดับอีกแบบคือจากสถาบัน GIT โดยแบ่งเป็น5ระดับคือ TE1-TE5 โดยพลอยที่มีน้ำยาตกค้างเยอะจะมีราคาถูกกว่าเพราะเป็นการบ่งบอกว่ามีรอยแตกหรือโพรงเยอะเลยมีที่ให้น้ำยาแทรกไปอัดตัวได้มาก


3.เผาBe 

    เผา Be หรือบางที่เรียกเผาใหม่แต่สมัยนี้การเรียกเผาใหม่ส่วนใหญ่หมายถึงการเผาแบบ Glassfilled การเผา Be คือการใช้สารเบริเลียมที่ไม่มีสีในการเผาร่วมกับพลอยทับทิมโดยพบมากในทับทิมซองเจีย โดยผลจากการเผาเบริเลียมนั้นจะให้ผลคงทนถาวรและไม่เปลี่ยนสีโดยเบริเลียมนั้นเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในพลอยตระกูล Chrysoberyl (คริโซเบริล) ซึ่งการเผาประเภทนี้ไม่มีการเติมสีแต่อย่างใด


4.เผาดิฟฟิวชั่น (Diffusion)

    เป็นการเผาโดยเติมสีเข้าไปในเนื้อพลอยโดยสีจะซึมไปอยู่ในผิวเนื้อพลอย ซึ่งถือว่าเป็นพลอยธรรมชาติแต่สีไม่ธรรมชาติ


5.เผา Glassfilled


    หรือที่ปัจจุบันเราเรียกติดปากกันว่าเผาใหม่เป็นการนำพลอยทับทิมมาบดอัดกันใหม่ด้วยน้ำยาประสานและอาจมีการเติมสีโดยเรียกว่า Glassfilled+Diifusion ซึ่งเอกลักษณ์ของพลอยเผาใหม่ที่ดูได้ง่ายๆคือหน้าพลอยจะลาย มีฟองอากาศ (Gas bubble) และมีแสงสะท้อนส้มๆ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าหากมีอย่างใดอย่างหนึ่งจะแปลว่าเป็นเผาใหม่แน่นอน100%แต่ให้สันนิษฐานไว้ได้เลย



การเลือกซื้อพลอยทับทิม


สี Color

    ทับทิมมีเฉดสีตั้งแต่แดงอมชมพูไปจนถึงแดงเข้มโดยช่วงสีที่นิยมมากในตลาดจะเป็นแดงเข้มแต่ต้องสว่างไม่เข้มมืด โดยสีแบบนี้เราเรียกว่าสี “เลือดนก” (Pigeon’s Blood) และสีอมชมพูสง่างแต่โครเมียมสูงก็เป็นที่นิยมเช่นกันโดยพบได้บ่อยในพลอยทับทิมพม่า

Blog banner July 2025 (3)

ความสะอาด Clarity 

    ทับทิมที่เนื้อสะอาดไม่มีรอยหรือมีเล็กน้อยแต่ไม่อยู่บนหน้ากระดานก็จัดว่าเป็นทับทิมคุณภาพดี


การเจียรไน Cutting

    พลอยที่เหลี่ยมเจียรไนสวยได้อัตราส่วนจะเล่นไฟดีประกายเต็มเม็ด เรื่องนี้สำคัญเพราะพลอยซื้อขายกันเป็นกะรัตหากเจอการเจียรไนบางครั้งก้นหนาลึกมากๆจนไฟไม่ออกหน้ากลายเป็นเราต้องไปจ่ายน้ำหนักส่วนเกินของพลอยซึ่งตรงนี้ต้องดูให้ดีๆ


ขนาด Carat Weight

    ทับทิมที่สะอาดๆไซส์เกิน5กะรัตขึ้นไปจัดว่าหายากมากและมีราคาสูง หรือต่อให้ขนาดแค่2-3กะรัต แต่สีสวยไฟดีก็ราคากะรัตละหลักแสนถึงหลายแสนได้ 


การปรับปรุงคุณภาพ Treatment

    ผู้ขายต้องบอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถ้าเป็นพลอยดิบ หรือ H(a) ให้ส่งแล็บที่น่าเชื่อถือตรวจสอบเช่น GIT, GRS, AIGS, LOTUS, Gubelin, Bellerophon, SSEF เป็นต้น 



สรุปการเลือกซื้อทับทิม

    

    ต้องดูองค์ประกอบทั้งหมดโดยเริ่มจากสีและความสะอาดก่อนเป็นสำคัญ โดยการหาซื้อทับทิมนั้นอยู่ที่งบประมาณของผู้ซื้อด้วยเช่นมีงบหนึ่งแสนแต่อยากได้ทับทิมดิบ สีเลือดนก ไซส์5 ก็เป็นไปไม่ได้ โดยถ้ามีใครมาบอกว่ามีทับทิมดิบไซส์5 สีเลือดนก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่ามีอะไรผิดปกติแน่นอน เพราะถ้ามีก็มาบอกผมได้ผมยินดีรับซื้อถ้าพลอยแท้คุณภาพนี้ราคานี้อย่ารอครับซื้อครับ แต่อาจจะต้องเสี่ยงสองเรื่อง 1. เจอของปลอม 2. รับของโจร “ถูกและดีไม่มีครับแต่แพงและ…..มีจริงครับ” เพราะคำว่าถูกและดีมันเป็นไปไม่ได้มันมีแต่ดีสมราคาครับ ต่อๆชักนอกเรื่อง (ฮา) ถ้างบมีจำกัดเราอาจจะลดด้านใดด้านหนึ่งเช่นอยากได้สีสวยอาจจพลดขนาดย่อมลงหน่อยเป็นไซส์1-2กะรัต ตำหนิเอามีพอรับได้ การปรับปรุงคุณภาพเอาเผาเก่า H(b) ก็จะได้พลอยสวยๆตามงบครับ 



เป็นยังไงครับกับความรู้เรื่องของทับทิมวันนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเลือกซื้ออัญมณีที่ตนเองชอบและขอให้ได้พบพลอยที่ถูกใจกันทุกคนนะครับ


ผู้เขียน:  Bank GemsBank


สินค้าที่เกี่ยวข้อง